วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการฯ


สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการฯ : พระบิดาแห่งการทูตไทย
 
 
                สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ (องค์ต้นราชสกุล “เทวกุล”) ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2401 ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับที่ 42 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเป็นลำดับที่ 2 ในสมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา
 
                สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2428 ขณะพระชันษา 27 ปี ถึง วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2466 ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศที่อายุน้อยที่สุด และอยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 38 ปี 16 วัน และในช่วงที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดี คุณูปการที่สำคัญยิ่งของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการคือการการรักษาอธิปไตยของไทย ทรงจัดทำสนธิสัญญากับอังกฤษและฝรั่งเศส และทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจอื่นๆ อาทิ รัสเซีย เยอรมนี
 
                ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภารกิจด้านการต่างประเทศหลายประการ อาทิ ทรงจัดและปรับปรุงรูปแบบกรมกองให้ทันสมัย ทรงขอพระราชทานที่ทำการ เพื่อให้เป็น “ศาลาว่าการต่างประเทศ” ซึ่งนับว่าเป็นกระทรวงแรกที่มีศาลาว่าการกระทรวงเป็นที่ทำการแทนการใช้บ้านเสนาบดีเป็นที่ทำการ ทรงเปิดสำนักงานผู้แทนทางการทูตของไทยในต่างประเทศ เช่น สถานทูตไทย ณ สำนักเซนต์ เจมส์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน
 
                นอกจากการปรับปรุงวิธีการทำงานและการบริหารราชการแล้ว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา เทวะวงศ์วโรปการทรงเอาพระทัยใส่ในคุณภาพของบุคลากร ทรงส่งเสริมการพัฒนาความรู้และทักษะของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยทรงจัดตั้งแผนกสอนภาษาอังกฤษให้แก่ข้าราชการ เสมียนและพนักงาน ทรงวางระเบียบวิธีเขียนหนังสือราชการ อีกทั้งทรงคัดเลือกนักเรียนส่งไปศึกษาต่อยังต่างประเทศอีกด้วย
 
                ทรงมีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน อาทิ ภาษาไทย ภาษามคธ ภาษาอังกฤษ และวิชาเลข นอกจากนี้ ยังทรงมีความสนพระทัยในเรื่องโหราศาสตร์และสมุนไพร ทรงเป็นผู้คิดปฏิทินตาม สุริยคติ นับวันและเดือนแบบสากล เรียกว่า “เทวะประติทิน” ซึ่งเป็นต้นแบบของปฏิทินในปัจจุบัน พร้อมทั้งทรงเป็นผู้คิดชื่อเดือน มีการแบ่งชื่อเรียกเดือนที่มี 30 วัน และ 31 วันชัดเจนด้วยการใช้คำนำหน้าจากชื่อราศี สมาสกับคำว่า “อาคม” และ “อายน” ที่แปลว่า การมาถึง
 
                สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2466 รวมพระชนมายุได้ 64 ปี และในกาลต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2466 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น